ถุงลมนิรภัยถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ต้องมีในรถยนต์ทุกรุ่น ที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต วันนี้เราจะมาพร้อมกับเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับถุงลมนิรภัยรถยนต์มาฝากครับ
ถุงลมนิรภัยรถยนต์คืออะไร
ถุงลมนิรภัย (Air Bag) เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัย ทำหน้าที่เสมือนเป็นหมอนรองผู้โดยสารที่ประกอบด้วยวัสดุห่อหุ้มที่มีความยืดหยุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงการชนกันของรถยนต์ โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับลูกบอลอากาศขนาดใหญ่ที่โผล่ออกมาจากพื้นที่ที่มีการพับเก็บไว้อย่างดี
ระบบการทำงานของถุงลมรถยนต์
เมื่อเกิดการกระแทกที่รุนแรงหรือรถชน จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกระแทก ทำให้ถุงลมนิรภัยทำงาน และพองตัวออกมาอย่างรวดเร็ว แก๊สที่บรรจุอยู่ภายในซึ่งเป็นสารเคมีโซเดียมเอไซด์ เมื่อเกิดการกระแทกจะเกิดปฏิกิริยาสลายตัวกลายเป็นโลหะโซเดียม และแก๊สไนโตรเจน ซึ่งไหลไปบรรจุในถุงลมนิรภัยที่พับอยู่ให้พองตัวขึ้นมา ใช้เวลาแค่ 0.04 วินาที ด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. จากนั้นถุงลมนิรภัยจะค่อย ๆ ยุบตัวลง
ถุงลมรถยนต์
อ่านเพิ่มเติม:
ตำแหน่งของถุงลมนิรภัย
-
ม่านถุงลม (Curtain Airbag) ช่วยป้องกันการชนจากด้านข้าง ไม่ให้ใบหน้าและศีรษะได้รับแรงกระแทก
-
ถุงลมด้านหน้า (Front Airbag) ที่อยู่บนโครงด้านหน้าขวาและซ้าย ช่วยป้องกันคนขับรถ และคนที่นั่งข้างคนขับ
-
ถุงลมที่พื้นใต้เท้า (Carpet Airbag) ช่วยผ่อนแรงบริเวณเท้าที่จะไปกระแทกกับพื้น และผนังกั้นระหว่างห้องโดยสารกับห้องเครื่องให้เบาลง
-
ถุงลมด้านข้าง (Side Airbag) อยู่ที่แผงประตูหรือที่ตัวเบาะนั่ง โดยมีเซ็นเซอร์เหมือนกับถุงลมด้านหน้า ช่วยป้องกันการกระแทกตรงส่วนครึ่งกลาง และด้านล่างของร่างกาย
-
ถุงลมป้องกันเข่าและขา (Knee Airbag) อยู่ใต้คอนโซลด้านผู้ขับขี่บริเวณหัวเข่า ช่วยป้องกันขา และหัวเข่า ไม่ให้ไปชนเข้ากับคอนโซลด้านล่างใต้พวงมาลัย
เซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยอยู่ตรงไหน
เซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยจะถูกติดตั้งเอาไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ อาทิ ถ้าเป็นถุงลมนิรภัยด้านหน้า เซ็นเซอร์ของมันก็มักจะติดที่บริเวณคานกันชนหน้า หรือช่วงคานเล็ก ๆ ที่อยู่หลังไฟหน้า ส่วนถุงลมนิรภัยด้านข้าง ก็อาจจะมีเซ็นเซอร์ฝังอยู่ที่เสาหรือประตูของรถ
ถุงลมนิรภัยมีลักษณะเป็นถุงลมขนาดใหญ่
สาเหตุที่ทำให้ถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน
-
หากรถยนต์อายุมาก ๆ อะไหล่มักจะเสื่อม อาจทำให้การทำงานของเซ็นเซอร์ถุงลมรถยนต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็เป็นเหตุที่ทำให้ถุงลมนิรภัยไม่ทำงานเมื่อมีการชน
-
ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต ในเมื่อไม่คาดเข็มขัดนิรภัยระบบจะตัดการทำงานของถุงลมนิรภัยทันที
ผู้ขับขี่รถยนต์จำเป็นต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งขณะขับรถ เพื่อความสามารถในการใช้งานถุงลมนิรภัยได้อย่างเต็มที่ และเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaotoyota.com/