
ฟอร์จูนเนอร์ มือสอง ดีไหม ?
>>> รีวิว Toyota รถยนต์ 7 ที่นั่ง รุ่นไหนดีฟอร์จูนเนอร์ มือสอง รุ่นแรก
ฟอร์จูนเนอร์โฉมรุ่นแรก ช่วงปี 2004-2015 ในระยะเวลาดังกล่าวมีการปรับโฉมถึง 2 ครั้ง ทำให้รุ่นแรกของรถอเนกประสงค์คันนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 3 โฉม โดยโฉมแรกเริ่มตอนเปิดตัว มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ คือ
ฟอร์จูนเนอร์ มือสอง ปี 2005
- เครื่องยนต์ดีเซล 1KD-FTV 3.0 ลิตร 163 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,400 - 3,200 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์เบนซิน 2TR-FE ขนาด 2.7 ลิตร VVT-I แรงม้าสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 241 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที

ฟอร์จูนเนอร์ มือสอง รุ่น 3.0V ตัวท็อปเครื่องดีเซล
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล จะมีจำหน่าย 2 รุ่น คือ 3.0V เป็นรุ่นตัวท็อป ได้แอร์อัตโนมัติ เกียร์อัตโนมัติ สปอยเลอร์หลัง เบาะหนังแท้ โดยที่อีกรุ่นที่ต่ำกว่าอย่าง 3.0G จะไม่ได้ระบบแอร์อัตโนมัติกับสปอร์เลอร์หลัง และเบาะเป็นแบบผิดกำมะหยี่
ฟอร์จูนเนอร์ มือสอง รุ่น 2.7 V เครื่องเบนซิน
ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซินมีจำหน่ายเพียงรุ่นย่อยเดียวคือ 2.7V มีออปชั่นเช่นเดียวกันกับรุ่นท็อปของเครื่องดีเซล ซึ่งอีก 3 ปีต่อมาหรือราว ๆ ปี 2007 รุ่นเบนซินได้ถูกปรับจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กลายเป็น 2 ล้อฟอร์จูนเนอร์ รุ่นไมเนอร์เชนจ์โฉมแรก
ในปี 2008 มีการปรับไมเนอร์เชนจ์ภายนอก เปลี่ยนกระจังหน้ารูปทรงทันสมัยมากขึ้น พร้อมไฟหน้าเป็นแบบโปรเจกเตอร์ ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ เพิ่มระบบ VSC และ TRC ขยายจานเบรกให้ใหญ่ขึ้น พร้อมระบบเสริมแรงเบรก อุปกรณ์ภายในติดตั้งเครื่องเล่น DVD กับระบบนำทาง
Toyota Fortuner รุ่น TRD Sportivo ปี 2012
เพิ่มรุ่นตกแต่งพิเศษ TRD Sportivo และ Aperto ให้ความสวยงามและทันสมัยมากขึ้น ด้วยการตกแต่งดีไซน์พิเศษสไตล์สปอร์ตและอุปกรณ์ชุดใหม่ที่เพิ่มเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น ในปี 2009 ได้เพิ่มรุ่นใหม่ 2.5G เครื่องยนต์ดีเซลเกียร์ธรรมดาขับเคลื่อน 2 ล้อ ให้กำลัง 144 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาทีฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Big ไมเนอร์เชนจ์
ในปี 2011 มีการปรับโฉมครั้งใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน ยกเครื่องเป็นโฉมที่ดูดุดัน ทันสมัยมากกว่าเดิม เสริมความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยคิ้วสเตนเลสประทับตรา Fortuner เหนือกรอบทะเบียน และในปีต่อมา โฉมปี 2012 เปลี่ยนเกียร์ในรุ่นดีเซลจาก 4 สปีดเป็น 5 สปีด และเพิ่มรุ่นเกียร์อัตโนมัติสำหรับรุ่น 2.5G พร้อมปรับสมรรถนะรุ่นเครื่องดีเซล 3.0 ให้เป็น 171 แรงม้า ติดตั้งระบบนำทาง พร้อมประมวลผลพฤติกรรมการขับขี่แบบ Realtime ให้ความบันเทิงที่ครบชุดกว่าเดิม
Toyota Fortuner รุ่น Midnightshine Edition ปี
จากนั้นมีการเพิ่มรุ่น TRD Sportivo ที่ตกแต่งพิเศษ ทรงสปอร์ต และรุ่น Midnightshine Edition ให้ความหรูหรา มีความพิเศษกับการตกแต่งชุดแต่งคุมโทนสีคมเข้ม พร้อม 3 สี ตัวถังใหม่ ที่นับเป็นการปรับโฉมครั้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่ยุคใหม่ของโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สำหรับในตลาดมือสอง ฟอร์จูนเนอร์ยุคแรกนี้ มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3 แสน 3 หมื่นบาท ในรุ่นโฉมแรก ไปจนถึง 9 แสนบาท สำหรับโฉมที่ปรับใหม่ช่วงปี 2011-2015 แม้ดีไซน์อาจจะดูไม่ทันสมัยโดดเด่น แต่ลูกเล่นและสมรรถนะยังถือได้ว่าครบเครื่อง นับว่าเป็นว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถอเนกประสงค์ไว้ใช้งานภายในครอบครัวในราคาประหยัดฟอร์จูนเนอร์ มือสอง รุ่นที่ 2
ในปี 2015 ฟอร์จูนเนอร์เข้าสู่ยุคใหม่ที่เรียกเสียงฮือฮานับตั้งแต่เปิดตัว และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างที่หวัง ขึ้นแท่นเป็นรถอเนกประสงค์ที่นิยมใช้งานภายในครอบครัวเป็นอย่างมาก สำหรับโฉมใหม่นี้ มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล ดังนี้
Toyota Fortuner รุ่นที่ 2 โฉมปี 2016
- เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC พร้อมระบบ VN Turbo ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ภายใต้ชื่อรุ่น 2.4V
- เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC พร้อมระบบ VN Turbo ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลัง 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ภายใต้ชื่อรุ่น 2.8V
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOCH พร้อมระบบ VVT-i -ขนาด 2.7 ลิตร ให้กำลัง 166 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อ ภายใต้ชื่อรุ่น 2.7V